1. ความรู้เพิ่มเติม
1.1. หลักการเติมing
1.1.1. 1. คำกริยานั้นมีสระเสียงสั้น(อะ อิ อุ เอะโอะ ฯลฯ) และโดยมากมักเป็นa,e,i,o,u อยู่หน้าพยัญชนะท้ายหรือคำกริยานั้นนั้นมีตัวสะกดเพียงตัวเดียวก่อนเติมing ให้เพิ่มตัวสะกดของคำนั้นซ้ำอีกตัวหนึ่งแล้วจึงเติม ing เช่น
1.1.1.1. sit = sitting
1.1.1.2. cut=cutting
1.1.1.3. get=getting
1.1.2. 2.คำกริยานั้นลงท้ายด้วยeให้ตัดeทิ้งแล้วเติมingเช่น
1.1.2.1. come=coming
1.1.2.2. drive=driving
1.1.2.3. make=making
1.1.3. 3. คำกริยาที่มีสระ2ตัว(A,E,I,O,U)ให้เติมได้เลยเช่น
1.1.3.1. cook=cooking
1.1.3.2. keep=keeping
1.1.4. 4. คำกริยาที่ลงท้ายด้วยieให้เปลี่ยนieเป็นyแล้วจึงเติมing เช่น
1.1.4.1. die=dying
1.1.4.2. lie=lying
1.1.5. 5. คำกริยาที่มีสองพยางค์และออกเสียงหนัก(stress)ที่พยางค์หลังโดยพยางค์นั้นมีสระและตัวสะกดเพียงตัวเดียวให้เพิ่มตัวสะกดของคำนั้นซ้ำอีกตัวหนึ่งแล้วจึงเติมingเช่น
1.1.5.1. begin=beginning
1.1.5.2. refer=referring
1.1.5.3. swim=swimming
2. รูปประโยค
2.1. 1.ประโยคบอกเล่า
2.1.1. S+V.to be+Verb เติมing+object +คำบอกเวลา
2.1.1.1. He,She,It ใช้ is
2.1.1.2. I ใช้ am
2.1.1.3. You,We,They ใช้ are
2.1.1.4. กริยาเติมing
2.1.1.5. Ex.My sister is playing violin.
2.1.1.6. Ex. We are reading newspaper now.
2.1.1.7. Ex.I sleeping under the tree.
2.2. 2.ประโยคคำถาม
2.2.1. V.to be+S+Verbเติมing+object +คำบอกเวลา?
2.2.1.1. Ex.Is it raining at the moment?
2.2.1.1.1. Ex.Are you lying to me?
2.3. 3.ประโยคปฏิเสธ
2.3.1. S+V.to be+not+Verbเติมing +object +คำบอกเวลา
2.3.1.1. Ex.The students are not studying Science.
2.3.1.2. Ex.I am not swimming in the canal.
2.3.1.3. Ex. Sunisa is not doing homework.
3. ข้อควรจำ
3.1. คำกริยาบางตัวไม่สามารถนำมาใช้ในรูปประโยคPresent Continuous Tenseได้
3.1.1. 1. กริยาที่แสดงถึงประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น see,hear,feel,taste,smellเป็นต้น
3.1.2. 2.กริยาที่แสดงความรู้สึกนึกคิด เช่น believe,know,understand,forgot,rememberเป็นต้น
3.1.3. 3.กริยาที่แสดงความชอบและไม่ชอบ เช่นlove,like,hate,dislikeเป็นต้น
3.1.4. 4.กริยาที่แสดงความต้องการ เช่นwant,wish,preferเป็นต้น
4. ลักษณะการใช้
4.1. 1.ใช้เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์หรือการกระทำในปัจจุบันที่กำลังดำเนินอยู่และยังไม่จบลง(จะจบลงในอนาคต)โดยอาจพบคำบอกเวลา(Adverb oftime)ปรากฏอยู่ในประโยคด้วย
4.1.1. now
4.1.2. at the moment
4.1.3. right now
4.1.4. Ex. I am studying at Chulalongkorn university.
4.1.5. Ex. Palm is trying to lose weight now.
4.2. 2.ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังเป็นกระแสหรือเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้น
4.2.1. Ex.These day,most people are favoring healthy food.
4.3. 3. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตโดยมีการเตรียมและวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอนแล้วมักพบคำบอกเวลา(Adverbs of time) เช่น tonight,this evening,tomorrow,next weekเป็นต้น
4.3.1. Ex. I am meeting my parents tonight.
4.3.2. Ex. Cheep rang and Pun are going on holiday next week.
4.4. 4. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยจนเกินไปทำให้ซ้ำซากและน่าเบื่อ
4.4.1. Ex. Suwich is constantly talking. I wish he would shut up.
4.4.2. Ex. I don’t like gangster near my house because they are always making noisy.